วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การพัฒนาการของรองเท้า Converse ในยุค 70′s ถึง 90′s

การพัฒนาการของรองเท้า Converse ในยุค 70′s ถึง 90′s
         เราลองมาย้อนดูอดีตกันว่าเจ้ารองเท้า Converse สุดฮอต ตั้งแต่ในอดีตที่พอจะหารูปมาได้ จนถึงปัจจุบันกันว่ามีความคลาสสิคยังไง รูปแบบดีไซน์เมื่อก่อนนี้หน้าตาประมาณไหนลองมาดูกันครับ


Converse 70′s 
งานดูไม่เรียบร้อย เบี้ยวๆ เพราะเป็นงานแฮนเมด และที่ลิ้นรองเท้าไม่มีป้ายผ้า ALL STAR ยุค 80 ก็ไม่มี จะเริ่มมีก็ตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมา


ป้ายด้านหลังเริ่มแรกจะใช้ ป้ายสีดำบบในภาพ รุ่นที่เห็นจะเป็น ไส้ตะเกียง ครับไส้ตะเกียง คือแถบผ้าที่อยูตรงส้นเท้าหลัง ที่เป็นผ้าหรือวัสดุคนละแบบกับตัวบอดี้รองเท้า




ที่ซอฟรองเท้าตรงคำว่า Converse จะพิมพ์ด้วยสีดำ ถ้ายุคปี 80 จะเป็นสีน้ำเงิน




Converse 80′s
หัวรองเท้าจะเล็กกว่ายุค 90 บางล็อตขีดดำเส้นบนจะใหญ่มากดังรูป



ซอฟจะเป็นแบบนี้ ส่วนสีดำจะหายากกว่



อันนี้เป็นความเชื่อเล็กๆที่บอกกันมาว่า ป้าย All Star วงกลมด้านข้าง บนสุดสังเกตที่ภาพ ป้ายจะต้องมีติ่งเล็กๆอยู่ จากการเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ พบว่ามีเฉพาะของอเมริกาเท่านั้นที่มีติ่งนี้อยู่ สาเหตุุเพราะมันเป็นป้ายสติ๊กเกอร์ร้อน ซึ่งติ่งนี้ใช้เป็นตัวแกะเวลาที่ลอกออกแล้วเอาไปติดที่รองเท้าครับ แต่ถ้ามือ 2 เก่าๆ อาจหลุดหายไปก็มีแต่น้อยคู่ครับ



ตรงกลางพื้นที่เบอร์รองเท้า สังเกตที่ภาพมันจะมีดาวหกแฉกดวงเล็กๆอยู่ ของไทยไม่มี ของเกาหลีและอื่นๆ มี แต่ของอเมริกาดาวจะมีรูตรงกลาง ของเกาหลีและอื่นๆไม่มี และด้านบนสุดที่พี้นช่องสี่เหลี่ยมยาวมันจะมีลายยางเล็กๆตามไปหมด ของอเมริกาจะเป็นรูปข้าวหลามตัด ส่วนเกาหลีจะเป็นแท่งสีเหลี่ยม แต่ของไทยและอื่นๆ มันก็เป็นสี่เหลี่ยมนะแต่ไม่ละเอียดเท่าของ USA




Converse 90′s
หัวรองเท้าของปี 90 จะโตกว่า 80 และ 70




จะเริ่มมีการใช้บาร์โค้ดมาใช้กับรองเท้า ซึ่งจะพบได้เฉพาะสินค้าที่ได้มาตราฐาน แต่บางคู่อาจจะไม่มีเนื่องมาจากเป็นสินค้าที่ผิดมาตรฐาน หรือผิดรูปทรงต่างๆ จากการผลิต ก็จะไม่มีบาร์โค้ดนี้อยู่ครับ




ที่ซอฟพื้นรองเท้า สังเกตด้านขวามือ มีรูปรองเท้า 3 คู่ และด้านหลังถัดมาจะมีสัญลักษณ์เหลี่ยมเล็กๆ 2 อันอยู่ เจ้านี่มันจะบอกว่าทำจากวัสดุอะไร เช่นสัญลักษณ์สีเหลี่ยม 2 อันหมายถึง ผ้าใบ ส่วนสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดก็คือ ยางพื้น และประเทศที่ผลิตอื่นๆจะไม่มีคำว่า made in usa แต่จะมีชื่อประเทศผลิตนั้นๆที่ตรงบาร์โคดอยู่ที่สลิปด้านใน ส่วนเกาหลีมันจะเป็นแสตมป์เย็บติดไว้ที่ลิ้นเหมือนกัน



ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , ,

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิธีสังเกต Converse ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม

วิธีสังเกตรองเท้า Converse ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม

          รองเท้าคู่หนึ่งถ้าซื้อมาแล้วก็อยากได้ของที่เป็นของแท้แน่นอนใช่ไหมล่ะ ลองเสียเวลาอ่านบทความนี้ แล้วเอาไปสังเกตก่อนการเลือกซื้อ Converse คู่ใหม่กันดีกว่า


พบกับพวกเราได้อีก 1 ช่องทางที่ https://www.facebook.com/I-Luv-Converse-230570807355482/

ของแท้ : โลโก้มีความชัดเจนเป็นรูปดาวและมีลายเซ็น Chuck Taylor อยู่บนโลโก้ด้วย

ของปลอม : โลโก้ดูมัวๆ ดูน่าเกลียด ดูยังไงก็ไม่ใช่แน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงคำบางคำของชื่อสินค้าด้วย



ของแท้ : ป้ายสลิปจะปักด้วยฝีเข็มแบบถี่ โลโก้นูนดูชัดเจน เมื่อสัมผัสจะลื่นๆ
ของปลอม : ลักษณะการปักจะเป็นแบบตารางดอทดังภาพ ดูไม่ชัดเจน สัมผัสแล้วจะสากมือ

 

ของแท้ : ขีดรอบเล็กจะมีความชัดเจน เก็บงานได้เนี๊ยบเข้ากับทรงรองเม้าที่เห็นได้ชัดเจน
ของปลอม : จากภาพของปลอมจะผิดรูปบิดเบี้ยวไม่ได้ทรง และหัวจะป่องกว่าของจริง


ของแท้ : แท็กกระดาษมีความน่าเชื่อถือ มีรูปภาพพิมพ์และคุณสมบัติต่างๆอย่างชัดเจน
ของปลอม : แท็ก ของปลอมจะมีข้อมูลที่ไม่เคลีย เป็นเพียงกระดาษด้อยคุณภาพแผ่นบางๆ ที่ไม่มีข้อมูลการรับประกัน หรือเอกสารการผลิตที่สำคัญอื่นๆ เมื่อนำมาจุ่มน้ำสีจะตกด้วยครับ


 

จากภาพจะมีความแตกต่างกันที่ขอบยางและป้ายที่ชัดเจนถึง 3 จุด ที่สำคัญเวลารองเท้านำมา หัก, บิด เวลาเดินหรือทำกิจกรรมต่างๆ ยางจะไม่ปริออกจากตัวขอบผ้าครับ

 โลโก้พิมพ์ลายชัดเจนไม่จืดหรือไม่แตกตัวเมื่อโดนการเสียดสี


ของแท้จะมีปุ่มยางส่วนเกินเล็กๆที่เกิดจาก บล็อกแม่พิมพ์ ผลิตรองเท้า Converse ที่ มีมาแต่ช้านาน และยางที่พื้นของแท้จะมีความยืดหยุ่นสูงใช้เล็บจิกจะคืนรูปได้รวดเร็ว ส่วนของปลอมจะเป็นยางคุณภาพต่ำลักษณะแข็งเหมือนพลาสติกลื่นไถลได้ง่าย


 กระดาษห่อรองเท้าจะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน

 

แค่นี้ เราก็จะได้รองเท้า Converse คู่ใหม่ที่มั่นใจว่าเป็นของแท้ ไปใส่เท่ๆ แล้วล่ะครับ

ป้ายกำกับ: , , , , , , ,

ที่มาของ Converse

          ที่มาที่ไปของเจ้ารองเท้าที่มีชื่อว่า Converse

 
          Converse นั้นเป็นบริษัทผลิตรองเท้าที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกาโดย ทางบริษัท Converse Rubber Corporation ได้เริ่มเปิดกิจการตั้งแต่เมื่อปี 1908 ซึ่งผู้ก่อตั้งคนแรกก็คือ มาร์ควิส เอ็ม คอนเวอร์ส โดยร้านแห่งแรกที่เมืองมัลเดนมลรัฐแมสซาชูเซตส์ สำหรับจุดเปลี่ยนที่ทำให้ร้านแห่งนี้โด่งดังขึ้นนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 1917 เมื่อมีการทำรองเท้าผ้าใบรุ่น "All-Star" ออกสู่ตลาด
          ในปีถัดมา ชาร์ลส์ เอช “ชัค” เทย์เลอร์ บุคคลผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัทแห่งนี้จึงได้เข้ามาร่วมงานด้วย ซึ่งตัวชัคนั้นเป็นนักบาสเก็ตบอลผู้เล็งเห็นว่า รองเท้าคอนเวอร์สนั้นจะต้องได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการนักบาสเก็ตบอล ด้วยเหตุนี้เขาจึงเข้าร่วมทำงานเป็นเซลส์แมนและเป็นทูตคอยโปรโมตสินค้าให้กับ Converse โดยระหว่างเดินทางไปแข่งขันบาสเก็ตบอลทั่วทั้งสหรัฐฯ ชัคจะแนะนำรองเท้า Converse ไปด้วย ทำให้ Converse กลายเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่นัก
บาสเก็ตบอลและ วัยรุ่นอเมริกันด้วยเหตุนี้
          ในปี 1923 ทาง Converse จึงนำชื่อ Chuck Taylor's ไปปรากฏร่วมกับโลโก้ของตนที่ติดอยู่บริเวณส่วนที่หุ้มข้อเท้าทำให้้ผู้คนมักเรียกรองเท้านี้ว่า“ชัคส์”ส่วนตัวชัคเองนั้น เขาทำงานให้กับ Converse อย่างหนักก่อนจะเสียชีวิตไปเมื่อปี 1969
          อย่างไรก็ตาม รองเท้าชัคส์นั้นมีแต่สีดำและสีขาวเป็นเวลานานหลายทศวรรษ แต่เมื่อทีมบาสเก็ตบอลต่างๆต้องการที่จะให้รองเท้ามีสีอื่นๆ ด้วย ทำให้เมื่อปี 1966 Converse จึงต้องผลิตรองเท้าสีอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นๆในการทำรองเท้าด้วยเช่นหนังหนังกลับไวนีลป่านแทนที่จะเป็นผ้าใบเพียงอย่างเดียวอีกด้ว



ป้ายกำกับ: , , , , , , ,